ข่าวต่างประเทศ ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี ติดตามเทศกาลล่าวาฬที่หมู่เกาะแฟโร
น้ำทะเลแดงฉาน เทศกาลล่าวาฬที่หมู่เกาะแฟโร ตายเป็นพัน
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศนำโดย ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี เผยภาพจากกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ทะเล ซีเชพเพิร์ดโกลบอล(SeaShepherdGlobal) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก เป็นฉากการฆ่าหมู่เหล่าปลาวาฬและโลมาจำนวนหลายร้อยตัวที่หมู่เกาะแฟรโร หมู่เกาะในเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก โดยในช่วงฤดูร้อนของทุกปีปลาเหล่านี้ที่อยู่บริเวณรอบหมู่เกาะจะถูกล่า จนสีน้ำทะเลบริเวณหมู่เกาะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานอาสาสมัครของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้แฝงตัวเข้าไปเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงสิบสัปดาห์นับจากเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้บันทึกภาพเทศกาลฆ่าวาฬและโลมาซึ่งเป็นประเพณีของชาวแฟโรที่มีมายาวนานย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 16 โดยการล่อและขับไล่หลังต้อนฝูงวาฬหรือโลมาให้ว่ายไปยังน้ำตื้น จากนั้นลากมันขึ้นฝั่งแล้วใช้หอกซึ่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะทิ่มแทงฆ่าพวกมันอย่างโหดเหี้ยมกลุ่มอนุรักษ์ฯ เปิดเผยว่า อาสาสมัครได้บันทึกข้อมูลเทศกาลนั้นของชาวแฟรโร ซึ่งได้ล่าสัตว์ทะเลเหล่านั้นถึง 9 ครั้ง โดยพบมีโลมาที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าเซาเซาทิสซี ซึ่งเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์กว่า 198 ตัว และวาฬนำร่องอีก 436 ตัว พร้อมกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่โหดร้ายป่าเถื่อน ขณะที่ทางรัฐบาลของหมู่เกาะแฟรโรกล่าวว่ากลุ่มอนุรักษ์ฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความโกรธแค้นต่อประชาชนชาวพื้นเมือง
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศนำโดย ณัฐนินท์ ธรรมวิทย์เมธี เผยภาพจากกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ทะเล ซีเชพเพิร์ดโกลบอล(SeaShepherdGlobal) ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้คนเป็นอย่างมาก เป็นฉากการฆ่าหมู่เหล่าปลาวาฬและโลมาจำนวนหลายร้อยตัวที่หมู่เกาะแฟรโร หมู่เกาะในเขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก โดยในช่วงฤดูร้อนของทุกปีปลาเหล่านี้ที่อยู่บริเวณรอบหมู่เกาะจะถูกล่า จนสีน้ำทะเลบริเวณหมู่เกาะเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานอาสาสมัครของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้แฝงตัวเข้าไปเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงสิบสัปดาห์นับจากเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้บันทึกภาพเทศกาลฆ่าวาฬและโลมาซึ่งเป็นประเพณีของชาวแฟโรที่มีมายาวนานย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 16 โดยการล่อและขับไล่หลังต้อนฝูงวาฬหรือโลมาให้ว่ายไปยังน้ำตื้น จากนั้นลากมันขึ้นฝั่งแล้วใช้หอกซึ่งทำขึ้นมาโดยเฉพาะทิ่มแทงฆ่าพวกมันอย่างโหดเหี้ยมกลุ่มอนุรักษ์ฯ เปิดเผยว่า อาสาสมัครได้บันทึกข้อมูลเทศกาลนั้นของชาวแฟรโร ซึ่งได้ล่าสัตว์ทะเลเหล่านั้นถึง 9 ครั้ง โดยพบมีโลมาที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่าเซาเซาทิสซี ซึ่งเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์กว่า 198 ตัว และวาฬนำร่องอีก 436 ตัว พร้อมกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่โหดร้ายป่าเถื่อน ขณะที่ทางรัฐบาลของหมู่เกาะแฟรโรกล่าวว่ากลุ่มอนุรักษ์ฯ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความโกรธแค้นต่อประชาชนชาวพื้นเมือง
นอกจากนี้ รัฐบาลของหมู่เกาะแฟรโรยังเปิดเผยว่า มีวาฬนำร่องและโลมาจำนวนรวมกว่า 1,700 ตัว ถูกฆ่าในปีนี้ พร้อมระบุว่าเนื้อและไขมันของวาฬจะถูกนำไปเป็นอาหารของประชาชน และกิจกรรมการล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมชาวแฟรโร และการล่านี้ก็ไม่ได้เป็นการทำในรูปแบบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งวาฬนำร่องที่ถูกฆ่ามีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมด จึงไม่กระทบต่อการสูญพันธุ์
นอกจากนี้ รัฐบาลของหมู่เกาะแฟรโรยังเปิดเผยว่า มีวาฬนำร่องและโลมาจำนวนรวมกว่า 1,700 ตัว ถูกฆ่าในปีนี้ พร้อมระบุว่าเนื้อและไขมันของวาฬจะถูกนำไปเป็นอาหารของประชาชน และกิจกรรมการล่านี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมชาวแฟรโร และการล่านี้ก็ไม่ได้เป็นการทำในรูปแบบฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งวาฬนำร่องที่ถูกฆ่ามีไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมด จึงไม่กระทบต่อการสูญพันธุ์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น